ข่าวเจย์เดน แดนน์ส เจย์เดน แดนน์ส กองหน้าดาวรุ่งลิเวอร์พูล เปิดใจหลังประเดิม 2 ประตูในทีมชุดใหญ่ ชนะ เซาแธมป์ตัน เข้ารอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ ข่าวสารวงการฟุตบอล เราได้นำมาลงในเว็บเพื่อให้สมาชิกทุกท่านไม่พลาดข่าวสารเด็ดๆจากทีมงาน เราได้หาข่าวที่ดีที่สุดมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน ใครรักทีมไหนชียร์ทีมไหนอย่าลืมติดตามข่าวทีมรักตัวเองด้วยนะ เพื่อจะได้ทันข่าวแล้วนำมา แทงบอลออนไลน์ บนเว็บ sbobet ของเรา
ข่าวเจย์เดน แดนน์ส เปิดใจหลังกดไป 2
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เจย์เดน แดนน์ส กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ของ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์หลังเกมเอฟเอ คัพ รอบ 5 เปิดบ้านเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ทีมอันดับ 4 จากศึกแชมเปียนชิพ ด้วยสกอร์ 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่รักคู่แค้นตลอดกาล
เกมนี้ เจย์เดน แดนน์ส ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง นาทีที่ 63 แทน ลูอิส คูมาส เพื่อนร่วมทีมเยาวชนวัย 18 ปี ผู้ทำประตูแรก ก่อนที่เขาจะเหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ที่มีผู้เล่นบาดเจ็บรวมกันถึง 13 คน เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ และยังอยู่บนเส้นทางลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ต่อไป
ด้าน เจย์เดน แดนน์ส เปิดใจถึงการทำประตูแรกในทีมชุดใหญ่ลิเวอร์พูลได้สำเร็จ หลังจากเพิ่งได้ลงเป็นตัวสำรองในคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งชนะ เชลซี 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์สมัยที่ 10 ของสโมสรเมื่อวันอาทิตย์ว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตผม ผมดูลิเวอร์พูลมาตั้งแต่เด็กๆ และการทำประตูที่ ค็อป เอนด์ ก็เป็นมากกว่าความฝัน”
นรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ผมมีโอกาสทำประตูอยู่บ้าง ดังนั้นวันนี้ผมจึงลงเล่นโดยคิดว่า ‘ครั้งต่อไปต้องยิงได้’ ผมไม่สามารถอธิบายได้ (ความรู้สึกอยากเฉลิมฉลองต่อหน้าเดอะค็อป) มันคือความฝันที่เป็นจริง สิ่งแรกที่ผมคิดออกคือการสไลด์เข่า มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ”
“นักเตะรุ่นพี่หลายคนคอยช่วยเหลือเราและผู้เล่นดาวรุ่งทุกคน ครึ่งหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมของผมในรุ่นอายุ 18 ปี และมันเป็นประสบการณ์ที่บ้าคลั่ง และการได้เล่นด้วยกันแบบนี้มันบ้าไปแล้ว”
“ความคิดต่อไปของผมคือการทำประตูในครั้งต่อไปถ้าผมได้ลงสนาม ผมขอขอบคุณสำหรับโอกาสที่บอส (เยอร์เกน คลอปป์) และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชมอบให้ ผมจะทำงานหนักต่อไปเพื่อเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
สรุปหน้านี้ จย์เดน แดนน์ส ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง นาทีที่ 63 แทน ลูอิส คูมาส เพื่อนร่วมทีมเยาวชนวัย 18 ปี ผู้ทำประตูแรก ก่อนที่เขาจะเหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ที่มีผู้เล่นบาดเจ็บรวมกันถึง 13 คน เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ และยังอยู่บนเส้นทางลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ต่อไป